การฝึกงานสัปดาห์ก็มีวันหยุดหลายวันค่ะ
สัปดาห์นี้ก็เป็นวันเสียภาษีของเดือนธันวาคมก็มีผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆก็มาเสียภาษีกันมาก
หน้าที่ที่ทำสัปดาห์นี้ก็คือ -ตรวจแบบแสดงรายการการเสียภาษีก่อนการชำระเงินว่าเป็นเงินสดหรือเช็คเท่านั้น
-แยกแบบแสดงรายการหลังจ่ายเงินของแต่ละเครื่องแคชเชียร์แยกตามหมายเลขที่มีอยู่บนแบบภ.ง.ด.ต่างๆก่อนนำส่งแต่ละเขตในวันถัดไป
-ตรวจนับเช็คของผู้เสียภาษีตามรายการที่ปริ้นออกมาว่าถูกต้องหรือไม่ และ แยกเช็คของธนาคารกรุงไทยออกมาไว้ตากหาก
-ถ่ายเอกสาร
-พิมพ์ใบประเมินของเจ้าหน้าที่ในโปรแกรมExcel
ปัญหาคือ -การแยกแบบแสดงรายการไม่ครบกับจำนวนที่ใบปะหน้ามี
-ภาษีที่ต้องการปรับเงินใหม่เช่นหักลดหย่อนภาษีของบิดา มารดา ยังคำนวณไม่ถูก
-เครื่องถ่ายเอกสารมีปัญหาตลอด เช่น กระดาษติด
วิธีแก้ปัญหา -แยกแบบแสดงรายการอย่างถี่ถ้วนก่อนปะหน้าแบบ
-ถามเจ้าหน้าที่ถึงวิธีการคำนวณภาษีว่าคำนวณอย่างไร
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สรุปการฝึกงานสัปดาห์ที่ 5
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ก่อนวันพ่อเริ่มวันแรกก็จะเริ่มมีการมาจ่ายชำระภาษี ประจำเดือน พ.ย วันนี้ก็ได้แต่จัดเรียงเอกสาร วันที่ 1 เป็นวันที่พี่ในสำนักงานไปอบรมเลยฝากงานไว้ถึง 3 วัน ให้คัดค้นข้อมูลผู้เสียภาษี จำนวน 1000 กว่าวัน และวันที่ 4 ก็ได้จัดเอกสารของผู้เสียภาษี จำนวน 300 กว่าชุด และยังได้คิดเช็คมูลค่ากว่า 10ล้านโดยคิดกับ Excel
ปัญหาที่พบ เช็ค ตอนแรกเช็คไม่ตรงยอด เช็คเกิน
การแก้ปัญหา ตรวจสอบตัวเลขคิดเช็คอีกสองรอบ
ปัญหาที่พบ เช็ค ตอนแรกเช็คไม่ตรงยอด เช็คเกิน
การแก้ปัญหา ตรวจสอบตัวเลขคิดเช็คอีกสองรอบ
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สรุปการฝึกงานสัปดาห์ที่ 4
การทำงานที่กรมสรรพากรก็จะมีการคัดค้นข้อมูลของผู้เสียภาษีและการกรอกข้อมูลลงแบบฟอร์มจำนวนประมาณ 70ชุดการคัดแยกแบบผู้เสียภาษี การคัดค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยและทำการบันทึกผลการตรวจสภาพกิจการคัดค้นข้อมูลผู้เสียภาษีรายตัวพร้อมกับปริ้นข้อมูลของการจ่ายภาษีบุคคลธรรมดาและที่สำคัญก็ยังได้บันทึกข้อมูลและทำการออกบัตรผู้เสียภาษีให้กับชาวต่างชาติจำนวน 6 ราย
ปัญหา การคัดค้นข้อมูลบางครั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่สามารถค้นพบต้องใช่เลขที่ผู้เสียภาษษีแทนชื่อผูประกอบการบางครั้งไม่ตรงกับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน
การแก้ปัญหา ถ้าสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่ที่ดูแลงานในส่วนนั้นไม่ควรตัดสินใจเองเพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาด
ปัญหา การคัดค้นข้อมูลบางครั้งเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่สามารถค้นพบต้องใช่เลขที่ผู้เสียภาษษีแทนชื่อผูประกอบการบางครั้งไม่ตรงกับข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน
การแก้ปัญหา ถ้าสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรก็ถามพี่ที่ดูแลงานในส่วนนั้นไม่ควรตัดสินใจเองเพราะจะทำให้เกิดความผิดพลาด
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สรุปการฝึกงานสัปดาห์ที่ 3
ฝึกงานสัปดาห์นี้เริ่มงานวันแรกก็ยังยุ้งๆ อยู่เพราะยังมีคนมาเสียภาษีรอบสองของเดือนอยู่ จำนวน420 ราย และยังได้ค้นหาข้อมูลประเภทกลุ่มธุรกิจของผู้เสียภาษีประมาณ 50 ราย และยังมีงานจัดเรียงข้อมูลเอกสารการชำระเงิน
อุปสรรคที่พบ จะเป็นการค้นข้อมูลผูเเสยภาษีข้อมูลที่ได้มักไม่ตรงกับรหัส
การแก้ไขปัญหา โดยค้นข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย
อุปสรรคที่พบ จะเป็นการค้นข้อมูลผูเเสยภาษีข้อมูลที่ได้มักไม่ตรงกับรหัส
การแก้ไขปัญหา โดยค้นข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สรุปการฝึกงานสัปดาห์ที่ 2
งานที่ปฏิบัติ คือ 1. แยกแบบการเสียภาษีตามพื้นที่จำนวน วันละ 300-400
2. ตรวจแบบภาษีต่างๆที่มายื่นการเสียภาษี วันละ 300-400
3. แยกแบบภาษีตามเลขที่ชุดต่างๆ ว่ามีจำนวนเท่ากับแม่แบบหรือไม่
4. พิมพ์ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบ
5. หาที่อยู่ของผู้ประกอบการจากเว็ปกระทรวงมหาดไทย
6. พิมพ์ซองจดหมายเพื่อเชิญผู้ประกอบการมาพบ
7. พิมพ์ชื่อผู้ประกอบในโปรแกรมExcel และหาจำนวนเงินการเสียภาษีของผู้ประกอบการในโปรแกรมระบบของกรมสรรพากร
ปัญหา คือ 1. แบบที่เจ้าหน้าที่ให้แยกตามชุดนั้นมีไม่ครบทำให้งานที่ทำล่าช้า
2. รายชื่อผู้ประกอบการที่เจ้าหน้าที่เอามาให้พิมพ์นั้นอ่านไม่ค่อยออกเพราะว่าบางชื่อเขียนบางรายชื่อก็พิมพ์
3. รายชื่อของผู้ประกอบการที่หาจำนวนเงินการเสียภาษีนั้นไม่มีในระบบ
วิธีแก้ปัญหา คือ 1. แบบที่แยกนั้นต้องแยกอย่างรอบคอบ
2. รายชื่อที่อ่านไม่ออกก็พยายามถามเพื่อไม่ให้ผิดพลาด
2. ตรวจแบบภาษีต่างๆที่มายื่นการเสียภาษี วันละ 300-400
3. แยกแบบภาษีตามเลขที่ชุดต่างๆ ว่ามีจำนวนเท่ากับแม่แบบหรือไม่
4. พิมพ์ชื่อและที่อยู่ของผู้ประกอบ
5. หาที่อยู่ของผู้ประกอบการจากเว็ปกระทรวงมหาดไทย
6. พิมพ์ซองจดหมายเพื่อเชิญผู้ประกอบการมาพบ
7. พิมพ์ชื่อผู้ประกอบในโปรแกรมExcel และหาจำนวนเงินการเสียภาษีของผู้ประกอบการในโปรแกรมระบบของกรมสรรพากร
ปัญหา คือ 1. แบบที่เจ้าหน้าที่ให้แยกตามชุดนั้นมีไม่ครบทำให้งานที่ทำล่าช้า
2. รายชื่อผู้ประกอบการที่เจ้าหน้าที่เอามาให้พิมพ์นั้นอ่านไม่ค่อยออกเพราะว่าบางชื่อเขียนบางรายชื่อก็พิมพ์
3. รายชื่อของผู้ประกอบการที่หาจำนวนเงินการเสียภาษีนั้นไม่มีในระบบ
วิธีแก้ปัญหา คือ 1. แบบที่แยกนั้นต้องแยกอย่างรอบคอบ
2. รายชื่อที่อ่านไม่ออกก็พยายามถามเพื่อไม่ให้ผิดพลาด
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สรุปการฝึกงานครั้งที่ 1
ข้าพเจ้าได้ฝึกงานที่กรมสรรพากรพื้นที่1 เขตราชเทวี เป็นการฝึกงานที่เกี่ยวกับงานภาษี เช่น วิธีการกรอกภาษี การเสียภาษี การเสียค่าปรับ การยื่นภาษีเกินกำหนด การแยกแบบภาษีให้กับพื้นที่ ต่างๆ
งานที่ข้าพเจ้าได้ทำก็ คือ แยกแบบภาษี ภ.ง.ด.53 , ภ.พ.30 ภาษีนิติบุคคล แยกตามพื้นที่ที่ต้องส่งให้พื้นที่นั้น วันละประมาณ 150-400 ชุดต่อวัน
ตรวจแบบการเสียภาษีของคนที่มาเสียภาษีก่อนชำระเงินตามภาษีที่ยื่นวันละ 150-400 ชุดต่อวัน เขียนค่าปรับการเสียภาษีเกินกำหนด วันละ 5-10 ชุดต่อวัน
ปัญหาที่ฝึกงาน คือ ข้าพเจ้ายังไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับ ภ.ง.ด 53, ภ.พ.30 ว่าจะต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่ และคำนวณเงินที่จะต้องเสียต่อเดือนว่าเท่าไหร่ และวิธีการแยกแบบเพื่อที่จะส่งแต่ละพื้นที่ว่าต้องดูยังไง
วิธีแก้ปัญหา คือ ทำงานเข้าใจเกี่ยวกับภาษีต่างๆ และเรียนรู้ หัดทำบ่อยๆ ก็จะได้ช่วยเหลือพนักงานที่นั้นได้ ไม่เป็นภาระให้กับพนักงาน
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
อาหาร กับ สุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ สำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะอาหาร 3 หมู่หลัก ที่ช่วยให้พลังงานในแต่ละวันปริมาณของพลังงานขั้นต่ำสุด ที่ถือว่าเพียงพอต่อร่างกายผู้หญิงจะอยู่ที่ 25 แคลอรีต่อหนักหนักตัว 1 กิโลกรัม เพราะฉะนั้น ถ้าหากคุณมีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม คุณควรจะได้รับพลังงานจากอาหาร 1,250 แคลอรี ซึ่งประเภทของอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ข้าวโพด ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยวชนิดต่างๆ เผือก มันเทศ ฝรั่ง ผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ฯลฯ โดยคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมจะให้พลังงานแก่ร่างกาย 4 แคลอรี ตามปกติ คนเรามักจะรับประทานอาหารประเภทนี้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวันไม่ควรจะรับประทานคาร์โบเดรตมากเกินครึ่งของแคลอรี่ทั้งหมดที่ร่างกายต้องการ กล่าวคือ หากแบ่งอาหารที่ให้พลังงานทั้งหมดออกเป็น 6 ส่วนใน 3 ส่วน ควรจะเป็นคาร์โบไฮเดรต อาหารประเภทโปรตีน ได้แก่ เนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ นม ถั่วชนิดต่างๆ ปริมาณของโปรตีน 1 กรัมจะให้พลังงาน 4 แคลอรี โปรตีนนับเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างความเจริญเติบโตของร่างกาย และช่วยแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ ฉะนั้นในแต่ละวันจึงควรรับประทานอาหารประเภทนี้อย่างน้อย 2 ใน 6 ส่วนของปริมาณแคลอรีทั้งหมดที่ร่างกายต้องการ อาหารประเภทไขมัน อย่างเช่น เนย น้ำมันพืช กะทิ และไขมัน สัตว์ต่างๆ ซึ่งล้วนแต่ให้พลังงานสูง ไขมันเพียง 1 กรัม จะให้พลังงานได้ถึง 9 แคลอรี ด้วยเหตุนี้ หากยังต้องการรักษาหุ่นดีๆ ให้อยู่กับคุณนานๆ จึงไม่ควรรับประทานอาหารประเภทนี้ มากเกิน 1 ใน 6 ส่วนของปริมาณแคลอรีทั้งหมด ที่ร่างกายต้องการ วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับผู้หญิงนอกเหนือจากอาหาร 3 หมู่หลัก ที่ให้พลังงานแล้ว ร่างกายยังมีความต้องการวิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด ทั้งนี้วิตามิน และแร่ธาตุ ที่จำเป็นสำหรับสรีระร่างกายของผู้หญิงโดยเฉพาะ ได้แก่ โฟเลต ถ้าหากผู้หญิงได้รับวิตามินชนิดนี้น้อยเกินไป พวกเธอจะค่อยๆ เกิดอาการหงุดหงิด กระวนกระวาย และความจำไม่ดี หรือหลงลืมง่าย ยิ่งไปกว่านั้นโฟเลตยังมีความสำคัญต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์อีกด้วย ฉะนั้น หญิงมีครรภ์จึงควรบำรุงโฟเลตเยอะๆ ซึ่งแหล่งอาหารที่อุดมด้วยโฟเลตก็คือ ผักสดชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผักกาดขาว ผักกาดแก้ว คะน้า กวางตุ้ง ใบโหระพา หรือพืชผักในตระกูลถั่ว เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ถั่วเขียว นอกจากนั้นเนื้อสัตว์ ตับ นม และเนยแข็งก็มีโฟเลตอยู่มากพอสมควรอย่างไรก็ดีโมเลกุลของโฟเลตเป็นอะไรที่สูญสลายได้ง่าย แค่คุณประกอบอาหารดังกล่าวด้วยความร้อนสูงเพียง 45 องศา อาหารนั้นก็แทบจะไม่เหลือโฟเลตให้คุณอีกเลย ฉะนั้นหากต้องการให้ได้คุณค่าของโฟเลตอย่างเต็มที่ ก็ควรจะรับประทานแบบสดๆ หรือพยายามให้อาหารผ่านความร้อนน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกพืชผัก ซึ่งมีผักอยู่หลายชนิดที่เราสามารถนำมารับประทานทั้งที่ยังสดๆ ได้อย่างปลอดภัย แต่สำหรับเนื้อสัตว์ และตับนั้น ห้ามนำมารับประทานแบบดิบๆ อย่างเด็ดขาด เหล็ก สารอาหารที่จำเป็นต่อการช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือด ให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง สามารถลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญสำหรับความเป็นหญิง ผู้ซึ่งต้องสูญเสียเลือด และมีการผลิตเลือดใหม่ในทุกรอบเดือน ยิ่งทำให้ร่างกายไม่อาจขาดธาตุเหล็กได้ แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ ไข่แดง ผักใบเขียว ถั่วเหลือง และพืชตระกูลถั่ว อย่างไรตามธาตุเหล็กจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น หากได้วิตามินซีเข้ามาช่วย แคลเซียม แร่ธาตุที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับความแข็งแรงของกระดูก และฟัน เป็นสารอาหารสำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่ผู้หญิงไม่ควรขาด เพราะร่างกายของเพศหญิงโดยเฉพาะในวัยที่หมดประจำเดือนไปแล้ว จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้สูงกว่าชาย ทั้งนี้เป็นผลมาจากการลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้การดูดซึมแคลเซียมเป็นไปได้ยาก แหล่งอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม ซึ่งหลายคนต่างก็รู้ดีว่ามีมากก็คือ นม นอกจากนี้ในพืชผักใบเขียวหลายชนิดอย่าง คะน้า ผักกระเฉด ยอดแค ผักขม ก็เพียบพร้อมไปด้วยแคลเซียมสูง ไม่แพ้นมเช่นกัน แมกนีเซียม เป็นธาตุอาหารที่มีประโยชน์ต่อการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กระดูก และฟันอีกตัวหนึ่งโดยจะเข้าไปช่วยทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแคลเซียมให้พอเพียงกับร่างกายอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยควบคุมระบบการทำงานของประสาท ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกายด้วย แหล่งของอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ที่มีแมกนีเซียมอยู่มาก ได้แก่ ขนมปังโฮลวีต สาหร่าย กล้วย และผักใบเขียวต่างๆ
เครดิตโดย พญ. รัชวดี กาญจนรุจิวงศ์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)